ผู้ว่าฯนราธิวาส เปิดแถลงข่าวเตรียมจัดงาน OTOP ทั่วไทย
ประสานใจ สู่แดนใต้ สามเหลี่ยม มั่นคง มั่นคั่ง ยั่งยืน ครั้งที่ 2 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่
5 – 11 ก.ค.60 ณ สนามกีฬามหาราช
อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส คาดจะมีเงินสะพัดในการจัดงานในครั้งนี้ ไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท
ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองสุไหงโก-ลก อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส นายสิทธิชัย ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เป็นประธานเปิดงานแถลงข่าวการจัดงาน
OTOP ทั่วไทย ประสานใจสู่แดนใต้ สามเหลี่ยม มั่นคง มั่นคั่ง
ยั่งยืน ครั้งที่ 2 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 5-11 ก.ค.60 โดยมีนายปรีชา นวลน้อย นายอำเภอสุไหงโก-ลก
นางสุชาดา พันธ์นรา นายกเทศมนตรีเมืองสุไหงโก-ลก นายเมธา ภมรานนท์ นายด่านศุลกากรสุไหงโก-ลก
นายไกรวุฒิ ช่วยสถิตย์ พัฒนาการจังหวัดนราธิวาส พ.ท.พงศกร แสงกูล
ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 30 และ
พ.ต.ต.จรูญ ด้วงไข่ สารวัตรป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจภูธรสุไหงโก-ลก
ร่วมแถลงข่าวในครั้งนี้ นายสิทธิชัย ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า
การจัดงานครั้งนี้ เป็นการยกระดับสินค้า OTOP ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส
โดยดำเนินการจัดขึ้น 3 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2
โดยครั้งแรกสามารถทำยอดขายกว่า 17 ล้านบาท
โดยพิธีเปิดงาน OTOP ทั่วไทย ประสานใจสู่แดนใต้
สามเหลี่ยม มั่นคง มั่นคั่ง ยั่งยืน จะมีขึ้นในวันพฤหัสบดี ที่ 6 กรกฏาคม 2560
เวลา19.30 น. ณ เวทีกลางสนามกีฬามหาราช อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส
และคาดว่าในการจัดงานครั้งที่ 2 นี้ จะมีเงินสะพัดมากถึงกว่า 20 ล้านบาท
ซึ่งการจัดงานครั้งนี้จะมีเงินสะพัดมากมายทั้งร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรม รถรับแจ้ง
จะมีรายได้มากขึ้นจากปกติหลายเท่าตัว รวมทั้งมีการเพิ่มจำนวน บูธ ร้านค้าจาก 110
บูธ เป็น 150 บูธ สินค้าโอทอเกรดระดับ 3 – 5 ดาว เพิ่มจำนวนอาหารจากเดิม 47 บูธ
เป็น 65 บูธ ตามคำเรียกร้องของประชาชน พร้อมทั้งเพิ่มเวลาจำหน่วยในแต่ละคืนจากเดิม
14.00 น.มาเป็น 11.00 น.คาดหวังว่าพี่ใน 2
จ.ใต้รวมถึงชาวต่างประเทศจะมาเที่ยวและสนับสนุนสินค้าโอทอปในงานครั้งนี้เป็นจำนวนมากเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก
ส่วนการพัฒนาพื้นที่ในระดับนโยบายนั้น การสร้างสะพานข้ามพรมแดนที่ อ.ตากใบ
และสุไหงโก-ลก นั้น อยู่ในแผน IMTGT ที่รัฐบาลไทยและมาเลเซียได้จับมือร่วมกันในแผนปี
2562 ที่จะบรรจุเข้าไป โดยในรายละเอียดต่างๆนั้น
เป็นเรื่องความสำพันธ์ระหว่างประเทศที่จะต้องไปคุยในรายละเอียดระดับรัฐบาลต่อไป
ด้านนายไกรวุฒิ ช่วยสถิตย์ พัฒนาการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า การจัดงาน OTOP
ทั่วไทย ประสานใจสู่แดนใต้ สามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน
ครั้งที่ 2 จะมีผู้ประกอบการจาก 4 ภาค ทั่วประเทศไทย ได้แก่ ภาคใต้ จำนวน 85 บูธ
ภาคกลางจำนวน 27 บูธ ภาคอีสาน จำนวน 21 บูธ และภาคเหนือ จำนวน 17บูธ
ส่วนประเภทผลิตภัณฑ์สินค้า OTOP ประกอบด้วย5ประเภท คือ
ประเภทอาหาร จำนวน 65 บูธ ประเภทเครื่องดื่ม จำนวน 20 บูธ
ประเภทผ้าและเครื่องแต่งกาย จำนวน 21 บูธ ประเภทของใช้ ของประดับตกแต่ง
ของที่ระลึก จำนวน 26 บูธ และประเภทสมุนไพรที่ไม่ใช่อาหาร จำนวน18 บูธ
ส่วนการแสดงบนเวที มีการแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นถิ่นจังหวัดนราธิวาส การเทศนาธรรม
และการแสดงของศิลปินดารา นักร้องทุกค่ำคืน โดยในวันที่ 5 ก.ค. พบกับดีเกฮูลู
เป๊าะแต๊ะกุแบอีแก วันที่ 6 ก.ค.พบกับศิลปินตั๊กแตน ชลดา วันที่ 7
ก.ค.พบกับศิลปินวงมอร์แกน วันที่ 8ก.ค.พบกับศิลปินวงลี แบนวาไรตี้ วันที่
9ก.ค.พบกับศิลปินวง Lก-ฮ วันที่
10ก.ค.พบกับศิลปินวงไฉไลวาไรตี้ และวันที่ 11ก.ค.พบกับศิลปินวงกลม
นอกจากนี้ยังมีการแสดงนิทรรศการการเชื่อมโยงศักยภาพของเมือง
3 เมืองต้นแบบ ได้แก่อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส
เมืองต้นแบบการค้าชายแดนระหว่างประเทศ อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี
เมืองต้นแบบการพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรมก้าวหน้าผสมผสาน และอำเภอเบตง จังหวัดยะลา
เมืองต้นแบบการท่องเที่ยวครบวงจร การแสดงนิทรรศการเด่นจังหวัดนราธิวาส ได้แก่
ผ้าท่อนราธิวาส และผลการดำเนินงานบริษัทประชารัฐสามัคคี (นราธิวาส)จำกัด
และการสาธิต ด้านนายปรีชา นวลน้อย นายอำเภอสุไหงโก-ลก
กล่าวในภาพรวมในเรื่องของการรักษาความปลอดภัยและการอำนวยความสะดวก ว่า
การจัดงานครั้งนี้ทางหน่วยงานฝ่ายความมั่นคงและภาคประชาชนได้มีการหารือในเรื่องของการรักษาความปลอดภัยและการอำนวยความสะดวกโดยได้ศึกษาการรักษาความปลอดภัยจากการจัดงานครั้งแรกมาปรับเปลี่ยนและเพิ่มความปลอดภัยจากเดินให้มากขึ้น
โดยมีการแบ่งเจ้าหน้าที่ในการรักษาความปลอดภัยแบ่งออกเป็น 3 ชั้น คือชั้นนอก
ชั้นกลาง และชั้นใน ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยและสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวงานในครั้ง
ด้าน พ.ท.พงศกร แสงกูล ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 30 และ พ.ต.ต.จรูญ ด้วงไข่
สารวัตรป้องกันปราบปราม สภ.สุไหงโก-ลก รับผิดชอบด้านความมั่นคงและการจัดการจราจร
ได้เสริมกำลังสนับสนุนเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร ทหาร ฝ่ายปกครอง และกำลังภาคประชาชน
ในการดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนที่จะเข้ามาในงาน
โดยทุกคนต้องผ่านการตรวจตราอย่างละเอียดด้วยเครื่องตรวจวัตถุระเบิดหน้าประตูทางเข้าก่อนเข้างาน
รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจจัดการและดูแลระบบจราจร และสถานที่จอดรถยนต์
รถจักรยานยนต์ทุกชนิด
โดยแบ่งโซนอย่างชัดเจนห่างจากจุดจัดงานเพื่อป้องกันการลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์
โดยมีกำลัง อส.และกำลังภาคประชาชนจะคอยดูแลความปลอดภัยทั้งในและนอกบริเวณงานอย่างเต็มที่เพื่อดูแลความเรียบร้อยรักษาความสงบในพื้นที่บริเวณงานตลอดทั้ง
7 วัน
นามปากกา-นักเดินทาง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น